
ชายวัย 30 ตกใจ เพิ่งรู้ป่วย “เบาหวานรุนแรง” ใช้ 3 วิธี พลิกชีวิตจนไม่ต้องกินยาอีก
ชายวัย 30 ตกใจ เพิ่งรู้ป่วย “เบาหวานรุนแรง” ใช้ 3 วิธี พลิกชีวิตจนไม่ต้องกินยาอีก
แพทย์โรคไตชื่อดังจากไต้หวัน ดร.หลิน เสวียนเหริน ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของชายวัย 30 ปีรายหนึ่งที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะฝีบริเวณทวารหนัก แต่กลับพบว่าเขาป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดรุนแรง โดยมีระดับค่า HbA1c สูงถึง 13.2 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์อันตราย
ความเข้าใจผิดที่อันตราย: "กินยาลดน้ำตาลแล้วต้องกินตลอดชีวิต"
ดร.หลินเผยว่า หลายคนเชื่อผิด ๆ ว่า “กินยารักษาเบาหวานแล้วจะไม่หาย ต้องกินไปตลอดชีวิต” หรือกลัวว่ายาจะทำลายไต จึงปฏิเสธการรักษาและหันไปใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่อันตรายมาก
แพทย์ย้ำว่า หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องในช่วงเริ่มต้นของโรค พร้อมทั้งปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามคำแนะนำของแพทย์ ก็สามารถควบคุมโรคได้ดี และบางรายอาจถึงขั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยาในระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าโรคหายขาด เพราะหากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม โรคก็สามารถกลับมาได้อีก
3 วิธีที่ช่วยพลิกชีวิตจากเบาหวานรุนแรงสู่สุขภาพดี
จากกรณีของคุณจาง วัย 30 กว่าปี หลังทราบว่าตนเองป่วยเป็นเบาหวาน เขาเริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างจริงจังตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้
- ปรับอาหาร: เลิกบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ลดเครื่องดื่มหวานและอาหารทอด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เพิ่มกิจกรรมทางกายทุกวัน เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและเผาผลาญไขมัน
- ใช้ยาอย่างถูกวิธี: ปฏิบัติตามแผนการรักษา โดยใช้ทั้งอินซูลินและยาลดน้ำตาลในระยะแรก
หลังจากผ่านไปเพียง 6 เดือน ค่า HbA1c ของเขาลดลงเหลือเพียง 5.8 และสามารถคงอยู่ในระดับปกติได้นานกว่า 1 ปีโดยไม่ต้องใช้ยาอีกต่อไป ทั้งรูปร่างและสมรรถภาพร่างกายก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ชีวิตใหม่หลังควบคุมโรคได้สำเร็จ
คุณจางเผยว่า “ชีวิตหลังจากควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ” น้ำหนักลดลง หายเหนื่อยง่าย อาการปวดเมื่อยและหายใจติดขัดก็หายไป ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีพลังมากขึ้น
ดร.หลินฝากถึงผู้ป่วยเบาหวานทุกคนว่า “ยิ่งมีวินัยมากเท่าไร ก็ยิ่งมีอิสระมากเท่านั้น” พร้อมเตือนว่าการปฏิเสธการรักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่หากเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องและดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและแข็งแรงได้เช่นกัน
สรุป
กรณีของชายวัย 30 ปีรายนี้เป็นตัวอย่างสำคัญว่า โรคเบาหวานสามารถควบคุมได้หากรักษาอย่างถูกวิธีในช่วงเริ่มต้น การใช้ยาไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพ เมื่อควบคู่กับการปรับพฤติกรรม การกิน การออกกำลังกาย และการตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ ก็อาจนำไปสู่เป้าหมาย “ไม่ต้องพึ่งยา” ได้จริง