
เคล็ดลับดื่ม "กาแฟ" อายุยืนลดเสี่ยงโรคร้าย ชงยังไง-ดื่มตอนไหน นักวิจัยเฉลยแล้ว
เคล็ดลับดื่ม "กาแฟ" ให้อายุยืน ลดเสี่ยงโรคร้าย ชงแบบไหน ดื่มตอนไหน ดื่มมากแค่ไหน นักวิจัยเฉลยแล้ว
กาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ และไม่เพียงช่วยให้รู้สึกตื่นตัวเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพหากเลือกวิธีชงและเวลาการดื่มอย่างเหมาะสม งานวิจัยล่าสุดชี้ว่าการปรับพฤติกรรมเล็กน้อยสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายและเพิ่มอายุขัยได้จริง
เคล็ดลับสำคัญไม่ได้อยู่ที่การดื่มเท่านั้น แต่อยู่ที่ "วิธีชง" และ "ช่วงเวลาที่ดื่ม"
ปริมาณที่เหมาะสม: ไม่เกิน 3.5 ถ้วยต่อวัน
-
ผลวิจัยชี้: ตามรายงานของ The Washington Post การศึกษาขนาดใหญ่ในปี 2022 ติดตามผู้ใหญ่กว่า 170,000 คนในสหราชอาณาจักร พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 1.5–3.5 ถ้วย มีโอกาสเสียชีวิตจากสาเหตุใด ๆ ลดลงประมาณ 30% ในระยะเวลา 7 ปีถัดมา
-
ประโยชน์สุขภาพ: สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟช่วยลดความเสี่ยงของโรคสำคัญต่าง ๆ เช่น พาร์กินสัน, มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง, และเบาหวานชนิดที่ 2
-
ข้อควรระวัง: แม้การดื่มเกิน 4.5 ถ้วยต่อวันยังคงมีแนวโน้มที่ดี แต่หากมีภาวะความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค
วิธีชงที่ดีต่อสุขภาพ: เน้นกาแฟ "ผ่านการกรอง"
-
หลีกเลี่ยง: กาแฟที่ไม่ผ่านการกรอง เช่น French press หรือ Espresso อาจมีสาร Diterpenes ในปริมาณสูง ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าสารนี้สามารถทำให้ระดับ LDL โคเลสเตอรอล (ไขมันไม่ดี) สูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
-
ทางเลือกที่ดีที่สุด: ควรเลือกดื่มกาแฟที่ ผ่านการกรอง ด้วยกระดาษกรองเป็นหลัก เพราะกระดาษกรองจะช่วยดักจับสาร Diterpenes เหล่านี้ได้
-
กาแฟสำเร็จรูปและแคปซูล: ถือเป็นกาแฟกรองเช่นกัน จึงมีความปลอดภัยใกล้เคียงกัน
ส่วนผสม: เลี่ยงน้ำตาลและครีมเทียม
-
น้ำตาล: ประโยชน์ต่อสุขภาพของกาแฟจะเห็นผลดีที่สุดในกาแฟ ที่ไม่เติมน้ำตาล หากจำเป็นต้องเติม ควรเติมให้น้อยที่สุด ข้อมูลจากการสำรวจ National Health and Nutrition Examination Survey (NHANES) พบว่าคนอเมริกันเติมน้ำตาลเฉลี่ย 3 ช้อนชาต่อถ้วย ขณะที่คำแนะนำคือผู้หญิงไม่เกิน 6 ช้อนชา และผู้ชายไม่เกิน 9 ช้อนชา
-
สารให้ความหวานเทียม: มีงานวิจัยที่ชี้ว่าสารให้ความหวานเทียมอาจรบกวนการเผาผลาญและจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งอาจลดประโยชน์ต่อสุขภาพของกาแฟลง
-
ครีมเทียมและไขมัน: ครีมเทียมรสชาติต่าง ๆ มักมีน้ำมันพืชและน้ำตาลสูง ควรจำกัดปริมาณไขมันในกาแฟไม่เกิน 1 กรัมต่อถ้วย (เทียบเท่านมสดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) หากต้องการเพิ่มรสชาติ แนะนำให้ใช้เครื่องเทศอย่างผงอบเชยแทนครีมหวาน
เวลาที่เหมาะสม: ดื่มช่วง "ก่อนเที่ยง"
-
ผลวิจัยชี้: การศึกษาในปี 2023 พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ ก่อนช่วงเที่ยง มีความเสี่ยงเสียชีวิตต่ำกว่าผู้ที่ดื่มในช่วงเย็นถึง 16%
-
เหตุผล: คาเฟอีนมีผลยับยั้งการหลั่ง เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ การดื่มกาแฟในช่วงเย็นหรือก่อนนอนจะรบกวนวงจรชีวิต (Circadian Rhythm) และอาจส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันได้
-
ข้อดีอื่น ๆ: คาเฟอีน (แม้ในกาแฟคาเฟอีนต่ำ) ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ (Gastrocolic Reflex) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย