"ชาม" 5 ประเภทที่ควรหลีกเลี่ยง เสียเงินไปเปล่าๆ แถมเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ
"ชาม" 5 ประเภท ที่ไม่ควรซื้อ เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว
แม้ “ชาม” จะดูเหมือนของใช้ทั่วไปในครัว แต่แท้จริงแล้ววัสดุและคุณภาพของมันมีผลโดยตรงต่อสุขภาพของคนในบ้านอย่างมาก หลายคนมักเลือกซื้อจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยหรือทันสมัย แต่ภายหลังกลับต้องเสียใจเมื่อพบว่าชามแตกร้าวง่าย หรือมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย บทความนี้จึงรวบรวม 5 ประเภทชามที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว
1. ชามบางเบา ดูน่าจับถนัดมือ
ชามที่มีลักษณะบางและน้ำหนักเบา แม้จะดูหรูหราและสะดวกต่อการใช้งาน แต่กลับเปราะบางและแตกง่าย โดยเฉพาะเมื่อใส่อาหารร้อน ชามลักษณะนี้ไม่สามารถเก็บความร้อนได้ดี อีกทั้งยังทำให้มือร้อนเมื่อถือ บางกรณีอาจเกิดการแตกร้าวระหว่างใช้งาน ทำให้น้ำซุปหรืออาหารร้อนหกใส่มือได้
คำแนะนำ: เลือกชามที่มีน้ำหนักพอเหมาะ จับแล้ว “แน่นมือ” ไม่เบาจนเกินไป ชามที่มีความหนาปานกลางจะเก็บความร้อนได้ดีและทนต่อแรงกระแทก
2. ชามสีสด ลวดลายฉูดฉาด
![]()
ชามที่มีสีสันสดใส ขอบทอง ลายแดง หรือลายฉูดฉาดมักดึงดูดสายตา แต่ชามประเภทนี้โดยมากใช้สารเคลือบและสีคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะสินค้าราคาถูก ซึ่งอาจมีสารตะกั่ว (Lead) และแคดเมียม (Cadmium) เมื่อสัมผัสกับอาหารร้อนหรืออาหารที่มีกรด สารโลหะเหล่านี้อาจละลายออกมาและเข้าสู่ร่างกายได้
คำแนะนำ: ควรเลือกชามที่มีสัญลักษณ์ “ผ่านการรับรองมาตรฐานอาหาร” หรือ “Food Safe” และใช้สารเคลือบที่อยู่ใต้ชั้นเคลือบป้องกัน ไม่สัมผัสอาหารโดยตรง
3. ชามพื้นผิวหยาบ หรือมีรอยสาก
หลายคนชอบชามสไตล์ “มินิมอล” หรือ “แนวญี่ปุ่น” ที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่ชามที่มีผิวสัมผัสขรุขระหรือมีร่องเล็กๆ นั้นทำความสะอาดยาก คราบน้ำมันและเศษอาหารจะติดอยู่ตามร่องจนเกิดกลิ่นอับหรือเชื้อแบคทีเรียสะสม ทำให้เกิดการปนเปื้อนเมื่อใช้ซ้ำ
คำแนะนำ: เลือกชามที่มีผิวเรียบ มันเงา ล้างง่าย ไม่จำเป็นต้องขัดแรงก็สะอาดหมดจดและไม่มีกลิ่นตกค้าง
4. ชามตื้น ปากกว้างเกินไป

ชามทรงตื้น ปากกว้าง แม้จะดูสะดวกเวลาทานอาหารประเภทสลัดหรือข้าวผัด แต่จริงๆ แล้วเก็บความร้อนไม่ได้ดี อาหารเย็นเร็ว และเสี่ยงต่อการหกหรือกระเด็น โดยเฉพาะเวลาใช้กับเด็กเล็กที่ยังควบคุมมือไม่ดี
คำแนะนำ: ควรเลือกชามที่มีความลึกพอเหมาะ ปากไม่กว้างเกินไป เพื่อช่วยเก็บความร้อนของอาหารและลดความเสี่ยงจากการกระเด็นของน้ำซุปหรืออาหารร้อน
5. ชามไม่มีฉลากแหล่งผลิต หรือ “3 ไม่มี”
ชามราคาถูกที่ไม่มีฉลาก ไม่มีมาตรฐานรับรอง และไม่ทราบแหล่งผลิต (“3 ไม่มี”) ถือเป็นของใช้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ จากการตรวจสอบพบว่าชามกลุ่มนี้หลายรุ่นมีสารตะกั่วเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจสะสมในร่างกายเมื่อใช้เป็นเวลานาน ทำให้เกิดปัญหาด้านระบบประสาทและไต
คำแนะนำ: ตรวจสอบฉลาก “ผ่านมาตรฐานอาหารปลอดภัย” และเลือกซื้อจากร้านค้าหรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียง พร้อมใบเสร็จรับรองทุกครั้ง หลีกเลี่ยงของราคาถูกที่ไม่มีข้อมูลแหล่งผลิตชัดเจน
สรุป: เลือกชามอย่างปลอดภัย เพื่อสุขภาพระยะยาว
แม้จะเป็นของใช้เล็กน้อยในครัว แต่การเลือกชามที่ปลอดภัยมีผลต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว เลือกชามที่ได้มาตรฐาน ผิวเรียบ ปลอดสารเคมี และมีแหล่งผลิตชัดเจน เพื่อให้ทุกมื้ออาหารอุ่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น