ตื่นมาน้ำ 1 ชนิด ไม่ใช่กาแฟ ปลุกระบบในร่างกาย ดีท็อกซ์ความเหนื่อยล้าหลังนอนดึก
วิธีดีท็อกซ์ความเหนื่อยล้า หากเมื่อคืนนอนดึก ดื่มน้ำ 1 ชนิดที่ง่ายกว่ากาแฟ
การโต้รุ่งอ่านหนังสือ เคลียร์งาน หรือดูซีรีส์จนดึกดื่น ทำให้เราต้องเผชิญกับความอ่อนเพลียในวันรุ่งขึ้น แต่ยังคงต้องรักษาพลังงานและความกระฉับกระเฉงเพื่อรับมือกับงานหรือการเรียน มีหลายวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถดึงพลังงานกลับคืนมาและลดอาการ เหนื่อยล้า ได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งคาเฟอีนหนัก ๆ ตลอดวัน
เคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อเรียกคืนความสดชื่นในวันถัดไป
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการปรับพฤติกรรมเล็กน้อยตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงช่วงบ่าย จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การทำตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถฟื้นตัวจากภาวะ นอนดึก ได้อย่างรวดเร็ว
1. ดื่มน้ำอุ่นและรับแสงแดดเพื่อปลุกร่างกาย
หลังตื่นนอนควรดื่มน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว เพื่อช่วยปลุกระบบในร่างกายและกระตุ้นการเผาผลาญ จากนั้นลองเปิดม่านรับแสงแดด หรือเดินออกไปรับแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้า แสงธรรมชาติจะช่วยยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน (ฮอร์โมนง่วงนอน) และส่งสัญญาณให้สมองรู้ว่า “ถึงเวลาตื่นแล้ว” อย่างเป็นธรรมชาติ

2. ยืดเหยียดร่างกายสั้น ๆ 5 นาที
ถ้ามีเวลา ควรยืดเส้นยืดสายเบา ๆ หรือเดินเร็วประมาณ 5 นาที การขยับร่างกายจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และเพิ่มออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดอาการมึนงงและความอ่อนเพลียที่เกิดจากการนอนน้อยได้
3. ห้ามงดอาหารเช้า เน้นสารอาหารครบถ้วน
ไม่ควรปล่อยท้องว่างหรือดื่มแต่กาแฟตอนเช้า ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (เช่น ขนมปังโฮลวีต มันเทศ) และไขมันดีในปริมาณเล็กน้อย (เช่น อะโวคาโด ถั่ว) สารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และทำให้รู้สึกตื่นตัวได้นานขึ้น หากต้องการกาแฟ ควรดื่มหลังอาหารเช้า และควรดื่มก่อน 10 โมงเช้า เพื่อลดผลกระทบต่อการนอนในตอนกลางคืน
4. พักสั้น ๆ ตอนบ่ายด้วยของว่างเพิ่มพลัง
เมื่อทำงานไปสักพักแล้วรู้สึกว่าพลังงานเริ่มตก ควรลุกขึ้นยืดเส้น ดื่มน้ำ หรือเดินสั้น ๆ เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง และอาจเพิ่มพลังด้วยของว่างที่มีวิตามินบีหรือซี เช่น กล้วย ถั่ว หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติแบบไม่หวาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสดชื่นได้ดี
5. คืนนี้ต้องรีบนอนดึงวงจรกลับมา
เมื่อเมื่อคืนนี้ นอนดึก คืนนี้คุณควรเข้านอนให้ตรงเวลาตามปกติ เพื่อดึงร่างกายกลับสู่จังหวะการนอนหลับที่สมดุล ไม่จำเป็นต้อง “นอนชดเชย” หรือนอนมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้วงจรการนอนเสียสมดุลและนำไปสู่อาการ อ่อนเพลีย ต่อเนื่องได้