หนุ่มวัย 22 ป่วยไตวาย-ไขมันพอกตับ-เกาต์ หมอยังช็อก แค่ 4 ปี น้ำหนักขึ้น 20 โล
หนุ่มอายุแค่ 22 ปี แต่ป่วยเป็นโรคไตวาย ไขมันสะสมในตับ และโรคเกาต์ หมอเผยเกิดอะไรขึ้น แค่ 4 ปี น้ำหนักขึ้น 20 โล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไตจากโรงพยาบาลในไต้หวัน ได้ออกมาเตือนภัยเรื่องพฤติกรรมการกินที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยยกเคสของหนุ่มอายุ 22 ปี ซึ่งมาพบแพทย์เพื่อตรวจสอบภาวะอ้วน และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไตวายระยะที่ 4 ไขมันสะสมในตับ และโรคเกาต์
แม่ของหนุ่มรายนี้ เล่าว่า ลูกชายเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและกลับบ้านที่ไทเป ไต้หวัน เพื่อทำงาน ในช่วง 4 ปีในวิทยาลัย เขาไม่เคยกลับบ้านเลย มีเพียงการโทรศัพท์พูดคุยกับพ่อแม่เท่านั้น ดังนั้นพ่อแม่ของเขาจึงไม่ทราบสถานการณ์สุขภาพของลูกชาย
ซึ่งเมื่อเขากลับถึงบ้าน ผู้เป็นแม่ก็พบว่าน้ำหนักของลูกชายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอจึงกังวลเรื่องสุขภาพของลูกชายมาก จึงพาเขามาตรวจสุขภาพ เมื่อตรวจร่างกายแล้วก็พบว่าหนุ่มรายนี้มีภาวะไตวายระยะที่ 4 ซึ่งทำให้เขาและแม่ตกใจมาก
จากการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย แพทย์จึงได้ทราบว่า หนุ่มรายนี้มีภาวะไตอักเสบเล็กน้อยเมื่อสมัยเรียนมัธยมปลาย ในขณะนั้นผู้ป่วยได้รักษาและเปลี่ยนอาหารเพื่อให้สุขภาพของเขาคงที่อยู่เสมอ
แต่เมื่อไปเรียนไกลบ้าน คนไข้เริ่มละเลยการดูแลสุขภาพ ในขณะที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เขายังดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นประจำ โดยดื่มน้ำอัดลมประมาณ 4-5 แก้วทุกสัปดาห์ เขามักจะกินอาหารมัน ๆ บ่อย ๆ นิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพนี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 20 กิโลกรัมใน 4 ปี
แพทย์ยังอธิบายว่า "ไม่เพียงแต่อาหารที่มีเกลือสูงเท่านั้น แต่การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและอาหารมัน ๆ เป็นประจำยังส่งผลต่อการทำงานของไตด้วย"
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและอาหารมันเยิ้มเป็นประจำ อาจทำให้เกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญ ซึ่งนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนได้ง่าย นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 ความผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึมและโรคเบาหวานสามารถทำลายหลอดเลือดรวมถึงหลอดเลือดในไต ส่งผลให้การทำงานของไตบกพร่อง
นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตในอนาคต
แพทย์จึงแนะนำให้ทุกคนใส่ใจสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาหารไขมันสูง และอาหารรสเค็มจัด เพื่อป้องกันโรคไตและโรคอื่นๆ ที่อาจตามมา