นักโภชนาการมาเตือนเอง "3 ของกิน" ไม่ควรอุ่นซ้ำในไมโครเวฟ มี 1 สิ่งคนไทยกินทุกวัน

02/12/2024 (14:12 น.)

นักโภชนาการเตือน 3 ของกิน ไม่ควรอุ่นร้อนซ้ำในไมโครเวฟ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีหนึ่งอย่างคนไทยกินทุกวัน

หลายคนมีพฤติกรรมชอบเก็บอาหารเหลือ หลังจากนั้นค่อยนำมาอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ ล่าสุด นักโภชนาการได้ออกมาเตือนว่า อาหารหรือของกินบางชนิดก็ไม่ควรนำกลับมาอุ่นซ้ำ เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ฮารินี บาลา นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาวิทยา ได้ออกมาเปิดเผยผ่านทาง TikTok เกี่ยวกับรายการของบริโภค 3 สิ่ง ที่ไม่ควรนำมาอุ่นร้อนซ้ำในไมโครเวฟ มีดังนี้

ของกิน 3 ชนิด ที่ไม่ควรอุ่นร้อนซ้ำในไมโครเวฟ 

1. ผักโขม

ฮารินี เผยว่า ผักโขมมีกรดออกซาลิกและปริมาณไนเตรตสูง ซึ่งปริมาณไนเตรตจะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อนำไปปรุงอาหารผ่านความร้อน ดังนั้นหากนำผักโขมที่ผ่านการปรุงสุกแล้วไปอุ่นร้อนซ้ำ ไนเตรตจะถูกเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

ฮารินี ได้ให้คำแนะนำกล่าวว่า "ได้โปรดอย่านำผักโขมไปอุ่นร้อนซ้ำ ให้กินมันทันทีที่คุณปรุงเสร็จ" พร้อมย้ำว่าสารประกอบที่เกิดจากนำผักโขมไปอุ่นร้อนซ้ำนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกาย

2. ชา

ในใบชามีสารที่ชื่อว่า คาเทชิน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เมื่อนำชาที่ผ่านการชงด้วยความร้อนไปอุ่นร้อนซ้ำอีก คุณสมบัตินี้ของสารนี้จะสลายตัวลง ในขณะที่สารแทนนิน ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดรสขมจะเพิ่มขึ้น

"ดังนั้นเมื่อคุณนำชาที่ชงแล้วไปอุ่นร้อนซ้ำ ไม่เพียงแต่ชาจะมีรสขมขึ้น แต่แบคทีเรียที่หลับใหลในชาจะทำงานออกฤทธิ์ขึ้นมา ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภค" ฮารินา กล่าว

3. ข้าว

ฮารินา เผยว่า ข้าวสามารถอุ่นร้อนซ้ำได้ในบางเงื่อนไข แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรจะดีกว่า โดยอธิบายดังนี้ ข้าวที่สามารถอุ่นร้อนซ้ำได้ จะต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บในตู้เย็น ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากหุงเสร็จ

ดังนั้นหากคุณหุงข้าวในตอนเช้า แต่นำมันเก็บเข้าตู้เย็นในตอนเย็น แล้วพยายามที่จะนำมันมาอุ่นกินในวันถัดไป มีโอกาสสูงที่เชื้อแบคทีเรียจะเจริญเติบโต

โดยแบคทีเรียที่ว่านี้คือ บาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus cereus) เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในอาหารประเภทแป้ง และทนต่อความร้อนสูง ไมโครเวฟไม่สามารถทำลายได้

เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลให้เกิดอาหารเป็นพิษ ซึ่งมักเรียกกันว่า โรคข้าวผัด หรือ Fried Rice Syndrome ซึ่งถือเป็นโรคที่มีความแรง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ และสามารถทำให้เสียชีวิตได้ในบางกรณี