
รู้ไหม? ปลา 2 ชนิดนี้คือ "อินซูลินธรรมชาติ" ลดน้ำตาล บำรุงเลือด-สมอง ซื้อกินง่ายกว่าแซลมอน!
หาซื้อง่าย! 2 ปลายอดนิยมในไทย อุดมโอเมก้า 3 เปรียบดัง “อินซูลินธรรมชาติ” ช่วยลดน้ำตาลในเลือด บำรุงสมองและเลือด
อยากลดน้ำตาลในเลือดแบบธรรมชาติ? ลองหันมากิน “ปลา 2 ชนิด” ที่หาซื้อได้ง่ายในไทย อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และสารอาหารสำคัญ เปรียบดัง “อินซูลินธรรมชาติ” ไม่เพียงแต่ดีต่อสมองเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และบำรุงเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปลาทูน่า: โปรตีนสูง ดีต่อสมอง และคุมเบาหวานได้
ปลาทูน่า เป็นปลาทะเลที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะ DHA และ EPA ซึ่งเป็นโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง เสริมความจำ ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก และผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการอาหารที่ให้พลังงานต่ำ แต่สารอาหารครบ นอกจากนี้ ปลาทูน่ายังช่วยส่งเสริมร่างกายในด้านต่างๆ มากมาย เช่น
-
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
-
ลดความเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2
-
เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยโปรตีนคุณภาพสูง
-
ป้องกันโรคโลหิตจางด้วยธาตุเหล็ก
ปลาทู: แชมป์โอเมก้า 3 ของไทย มากกว่าปลาแซลมอน 2 เท่า!
ปลาทู เป็นปลายอดนิยมของไทย ที่ไม่เพียงอร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงถึง 5,134 มก. ต่อ 100 กรัม ซึ่งมากกว่าปลาแซลมอนถึง 2 เท่า นอกจากสามารถปรุงได้หลายเมนู เช่น ปลาทูต้มเค็ม ปลาทูทอดน้ำปลา หรือยำปลาทู ยิ่งกินคู่กับข้าวกล้อง ยิ่งได้ไฟเบอร์สูง และประโยชน์แบบล้นๆ เช่น
-
ช่วยบำรุงหัวใจ และระบบไหลเวียนเลือด
-
ลดอาการอักเสบ และภาวะดื้ออินซูลิน
-
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
-
บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง
แล้วทำไม “โอเมก้า 3” ถึงเปรียบเหมือนอินซูลินธรรมชาติ? เหตุผลที่โอเมก้า 3 ถูกขนานนามว่าเป็น “อินซูลินธรรมชาติ” ก็เพราะมันมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินในร่างกาย ลดภาวะดื้อต่ออินซูลินในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) ส่งผลดีต่อระบบหลอดเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
ดังนั้น การเลือกปลาทะเลที่มีโอเมก้า 3 สูงอย่างปลาทูและปลาทูน่า จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือดแบบธรรมชาติ โดยวิธีเพิ่มโอเมก้า 3 ในชีวิตประจำวันนั้น แนะนำว่าสามารถทำได้ดังนี้
-
กินปลาทะเลสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
-
หลีกเลี่ยงการทอดด้วยน้ำมันเยอะ ควรต้ม นึ่ง หรืออบ
-
กินคู่กับผักใบเขียวเพื่อเสริมไฟเบอร์
-
หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและหวานจัด
ปลาทูและปลาทูน่า คือสองปลาที่หาได้ง่ายในเมืองไทย มีคุณค่าสูง โดยเฉพาะ โอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง ควบคุมน้ำตาลในเลือด และป้องกันโรคโลหิตจาง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานและผู้รักสุขภาพ
ทั้งนี้ ยังมีคำถามที่พบบ่อยคือ ปลาทูหรือปลาทูน่า ดีต่อผู้ป่วยเบาหวานมากกว่ากัน? คำตอบคือ "ดีทั้งคู่" แต่ปลาทูน่ามีไขมันน้อยกว่า เหมาะสำหรับผู้ต้องการควบคุมน้ำหนัก ส่วนปลาทูมีโอเมก้า 3 สูงกว่า เหมาะสำหรับการลดอักเสบและควบคุมระดับน้ำตาล
กินปลาทูหรือปลาทูน่าทุกวันได้ไหม? คำตอบคือ "ได้" แต่ควรสลับชนิด และเลือกวิธีปรุงที่ดีต่อสุขภาพ เช่น อบหรือนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงสารตกค้างและไขมันทรานส์
- เลี่ยงได้เลี่ยง! 4 มื้อเช้าที่ “ชวนป่วย” บำรุงเซลล์มะเร็งแบบเงียบๆ หลายคนกินไม่รู้ตัว
- ทีวียังไปถ่าย "หมู่บ้านไร้มะเร็ง" สัมภาษณ์จนรู้เคล็ดลับ แค่กิน 1 สิ่ง สุขภาพดีแถมอายุยืน