ผลวิจัยน่าทึ่ง หลังอาหารทำสิ่งนี้แค่ 5 นาที วิธีง่ายๆ ลดเสี่ยงเบาหวาน เผาผลาญไขมัน

ผลวิจัยน่าทึ่ง ทำกิจกรรมนี้หลังกินอาหาร ลดความเสี่ยงโรคยอดฮิต คนไทยป่วยกันเยอะ หมอบอกลองทำดูแค่ 5 นาที ดีกว่านั่งนิ่งๆ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sport Medicine ระบุว่าการเดินเพียง 5 นาทีหลังมื้ออาหารสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ

นักวิจัยพบว่าการเดินสั้นๆ หลังรับประทานอาหารช่วยป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดจากการพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือเป็นเบาหวาน

เมื่อเรารับประทานอาหาร ร่างกายจะย่อยคาร์โบไฮเดรตและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ร่างกายจึงต้องปล่อยฮอร์โมนอินซูลินออกมาเพื่อนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน

อย่างไรก็ตาม หากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นบ่อยๆ ร่างกายจะต้องผลิตอินซูลินมากขึ้น และอาจทำให้เซลล์ไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะก่อนเบาหวานและโรคเบาหวานประเภทที่ 2

การเดินหลังอาหารช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ใช้กลูโคสเป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยสรุปว่ากิจกรรมทางกายแม้เพียงไม่กี่นาทีก็สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญกลูโคสและปรับปรุงความไวของอินซูลินได้

เดินหลังอาหารช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี

ดร. เฮเทอร์ วิโอลา แพทย์จาก Mount Sinai Doctors-Ansonia ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเดินหลังมื้ออาหารไม่เพียงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น การเผาผลาญไขมันส่วนเกิน การปรับปรุงการย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

ดร. วิโอลาอธิบายว่า หากต้องการลดน้ำหนัก เราต้องเผาผลาญแคลอรีมากกว่าปริมาณที่รับเข้าไป ร่างกายจะใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อเดิน ดังนั้นการเดินหลังอาหารจึงช่วยเผาผลาญแคลอรีและควบคุมน้ำหนักได้ นอกจากนี้ การเดินเป็นประจำยังช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ควบคุมการรับประทานของว่างที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ดีขึ้น

เธอยืนยันว่า แม้จะเดินด้วยความเร็วต่ำหลังอาหารก็ยังดีกว่าการนั่งนิ่งๆ โดยไม่ทำอะไรเลย

ประโยชน์เพิ่มเติมของการเดินหลังอาหาร

นอกจากช่วยเผาผลาญแคลอรีและป้องกันโรคเบาหวานแล้ว การเดินหลังอาหารยังมีข้อดีอื่นๆ เช่น

• ช่วยระบบย่อยอาหาร หลังมื้ออาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง หลายคนอาจมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องผูก กรดไหลย้อน หรือปวดท้อง ดร. วิโอลาแนะนำว่าการเดินเบาๆ จะช่วยกระตุ้นกระเพาะอาหารและลำไส้ ส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น

• ลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ งานวิจัยพบว่าการเดินวันละ 30 นาที โดยแบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ดร. วิโอลาแนะนำว่าควรเดิน 10 นาทีหลังอาหารเช้า กลางวัน และเย็นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ระบุว่าการออกกำลังกายสั้นๆ เช่น การเดิน 10-15 นาทีหลังอาหาร สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้

ข้อควรระวังเมื่อต้องเดินหลังอาหาร

แม้ว่าไม่มีระยะเวลาที่แน่นอนในการเริ่มเดินหลังอาหาร แต่ ดร. วิโอลาแนะนำให้รอประมาณ 15 นาทีหลังรับประทานอาหารก่อนออกเดิน เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายท้อง

นอกจากนี้ เธอยังเตือนว่าไม่ควรเดินเร็วเกินไปหรือวิ่งหลังอาหาร เพราะอาจเพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหาร

การเดินหลังอาหารเป็นนิสัยที่ง่ายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่มีการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีและไขมันสูง การเดินหลังอาหารจะช่วยป้องกันการสะสมของไขมันส่วนเกิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ