.jpg)
คนไทยก็กินเยอะ! กูรูด้านสุขภาพ อัดคลิปเตือน 2 อาหาร "ทำร้ายหัวใจ" ไม่ใช่เกลือ-ของทอด
นักโภชนาการชาวอเมริกัน เตือน 2 อาหาร "ทำร้ายหัวใจ" ที่อันตรายที่สุด คนไทยก็กินกันทุกวัน!
ดร.เอริก เบิร์ก เป็นนักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพชาวอเมริกัน ซึ่งมีปริญญาด้านการแพทย์แผนธรรมชาติ (Doctor of Chiropractic) กล่าวผ่านอินสตราแกรมที่มีผู้ติดตาม 1.9 ล้านคน ระบุว่า อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เกลือ และอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง อยู่ในรายการสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง แต่ยังมีอีก "ส่วนผสมที่อันตรายที่สุด" สำหรับหัวใจ
"ส่วนผสมที่อันตรายที่สุดสำหรับหัวใจของคุณไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด..... ส่วนผสมที่อันตรายที่สุดสำหรับหัวใจของคุณไม่ใช่ไขมันอิ่มตัว ไม่ใช่คอเลสเตอรอล และแน่นอนว่าไม่ใช่เกลือ แต่ส่วนผสมที่แย่ที่สุดสำหรับหัวใจของคุณคือ น้ำตาลขัดขาวและแป้งขัดขาว"
พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมว่า ทั้งน้ำตาลแปรรูปและแป้งแปรรูป จะทำให้ร่างกายขาดแมกนีเซียม วิตามินบี1 วิตามินอี และสังกะสี ซึ่งจะทำให้มีปัญหาความดันโลหิต การอุดตันในหลอดเลือด การอักเสบ และอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทั้งหมดนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หากหลีกเลี่ยงน้ำตาลแปรรูปและแป้งแปรรูป
- หมอชี้ช่อง "หนีมะเร็ง" เริ่มจากตัด 1 อาหาร 1 เครื่องดื่ม เรื่องง่ายๆ แต่หลายคนทำไม่ได้!
- เมืองไทยก็มี! "ผักมหัศจรรย์" ที่ ศจ.สเปกเตอร์ ยกย่องบำรุงหัวใจ แค่กินก็ลดความดันได้ 3%
น้ำตาลในทุกรูปแบบเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ที่ร่างกายแปลงเป็นกลูโคสและนำไปใช้เป็นพลังงาน แต่ความแตกต่างระหว่างน้ำตาลธรรมชาติและน้ำตาลที่ผ่านการขัดสีสามารถส่งผลต่อสุขภาพของเราได้มาก น้ำตาลธรรมชาติจะพบในผลไม้และอาหารอื่นๆ ในขณะที่น้ำตาลที่ผ่านการขัดสีจะถูกแปรรูปเพื่อให้สามารถใส่ในอาหารและเครื่องดื่มได้ง่ายขึ้น การขัดสีน้ำตาลมักจะทำเพื่อเพิ่มรสชาติหรือยืดอายุการเก็บรักษา
JAMA Internal Medicine เผยผลการศึกษาหนึ่งในปี 2014 พบว่าอาหารที่มีน้ำตาลสูงมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ จากการศึกษาวิจัยที่กินเวลานาน 15 ปี พบว่าผู้ที่ได้รับแคลอรีจากน้ำตาลที่เติมลงไป 17-21% มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น 38 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคแคลอรีจากน้ำตาลที่เติมลงไป 8%
การบริโภคน้ำตาลในปริมาณสูงอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายประการ เช่น ตับทำงานหนักเกินไปในขณะที่เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตในอาหารเป็นไขมัน เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ไขมันสะสมมากขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นโรคไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อีกทั้งน้ำตาลอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยที่นำไปสู่โรคหัวใจได้
ส่วนคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว หรือคาร์โบไฮเดรตขัดสี น้ำตาลและธัญพืชขัดสีที่ได้จากการกำจัดเปลือก รำ และสารอาหารออกไป เช่น ขนมปังขาว แป้งพิซซ่า พาสต้า และซีเรียลบางชนิด ซึ่งร่างกายสามารถย่อยได้อย่างรวดเร็ว และมีดัชนีน้ำตาลสูง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังอาจทำให้มีอารมณ์แปรปรวน รวมถึงมีไขมันสะสม โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว
การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลขัดสีสูง ยังเกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคสมาธิสั้น โรคอารมณ์ และเบาหวานประเภท 2 เนื่องจากเมื่อเรากินแป้งขัดสี ร่างกายจะมีน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ส่งผลให้มีการหลั่งอินซูลินเพื่อกำจัดน้ำตาลออกไป ซึ่งมักทำให้เรารู้สึกไม่พอใจและอยากทานอาหารหวานมากขึ้น อาจนำไปสู่การกินมากเกินไป น้ำหนักขึ้น และอาจถึงขั้นดื้อต่ออินซูลินได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2