เชื่อในเน็ต! สาวดื่มน้ำมะนาวคั้นสดตอนเช้า แค่ 10 วัน รู้เรื่อง เผยผลลัพธ์สุดทรมาน

07/04/2025 (13:52 น.)

10 วันหลังจากดื่มน้ำมะนาวคั้นสดตอนเช้า ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับผลลัพธ์ 2 อย่างที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ

เว็บไซต์ Kenh14.vn รายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ ในโลกออนไลน์ของเวียดนามมีเทรนด์ใหม่กำลังแพร่หลาย คือการดื่มน้ำมะนาวคั้นสดในตอนเช้า โดยมีการโฆษณาว่าสามารถ "ล้างพิษในร่างกาย" และถึงขั้น "รักษาได้สารพัดโรค"

มื้อเช้ากับ "น้ำมะนาวครึ่งลิตร"

ในโลกโซเชียล มักมีเทรนด์สุขภาพใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาเป็นระยะ เช่น การล้างลำไส้ด้วยกาแฟ หรือการดื่มน้ำเกลือเข้มตอนเช้า

ล่าสุด ก็มีอีกกระแสที่กำลังเป็นที่พูดถึง นั่นคือการดื่มน้ำมะนาวคั้นสดตอนเช้าขณะท้องว่าง โดยอ้างว่าสามารถ "ล้างพิษในร่างกาย" และ "รักษาได้สารพัดโรค"

บนเฟซบุ๊กมีหลายโพสต์แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีนี้ เช่น หญิงรายหนึ่งเผยว่าเธอดื่มน้ำมะนาวคั้นสดถึง 300-500 มิลลิลิตร (ประมาณ 6-15 ลูก) ทุกเช้าในขณะท้องว่าง โดยเชื่อว่าช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง ผิวพรรณกระจ่างใส และยังช่วยรักษาโรคกระเพาะ ข้ออักเสบ เบาหวาน และแม้แต่โรคมะเร็งอีกด้วย

ผู้ใช้รายหนึ่งชื่อ N.M.T เปิดเผยว่า เธอดื่มน้ำมะนาวคั้นสดวันละ 300-400 มิลลิลิตรในตอนเช้า โดยเชื่อว่าเป็นวิธีช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย

หญิงรายนี้ เล่าว่า เธอดื่มน้ำมะนาวคั้นสดตอนเช้าติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน แต่แทนที่จะรู้สึกแข็งแรง กลับเจอปัญหารุนแรง 2 อย่าง คือ ปวดท้องบิดอย่างรุนแรง และอาเจียนเป็นน้ำสีเหลืองคล้ายน้ำดี

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหลายคนที่อ้างตัวว่าเป็นแพทย์ และแนะนำว่าการดื่มน้ำมะนาวคั้นสดตอนเช้าเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

แต่อันที่จริง การดื่มน้ำมะนาวในปริมาณมากขณะท้องว่างนั้น มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือ? หรือแท้จริงแล้วอาจซ่อนความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม?

• หญิงวัย 50 คั้นมะนาวดื่มวันละ 5-6 ลูก หมอเฉลยผลลัพธ์ แค่ 1 เดือน รู้เรื่องเลย

ดื่มน้ำมะนาวเพื่อดีท็อกซ์และลดน้ำหนักดีจริงหรือ?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า มะนาว เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ตามข้อมูลจาก ดร.ดวาน ทู ฮ่อง สถาบันการแพทย์ประยุกต์เวียดนาม มะนาวมีวิตามินซีสูง ราว 18.6 มิลลิกรัมต่อผล ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ กรดซิตริกในมะนาวยังช่วยป้องกันนิ่วในไต โดยเพิ่มปริมาณปัสสาวะและลดโอกาสการเกิดผลึกนิ่ว

นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังพบว่า ฟลาโวนอยด์ ในน้ำมะนาวสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และช่วยย่อยอาหารโดยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะ หากดื่มในปริมาณเหมาะสม และเจือจางอย่างถูกต้อง น้ำมะนาวสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้มาก

อย่างไรก็ตาม แม้มะนาวจะมีข้อดีหลายด้าน แต่อย่างที่แพทย์เตือน การดื่มน้ำมะนาวคั้นสดเข้มข้นในปริมาณมาก โดยเฉพาะตอนท้องว่าง อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างไม่คาดคิด

อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มน้ำมะนาวเข้มข้นมากเกินไป

ระคายเคืองและทำลายกระเพาะอาหาร
กรดซิตริกในมะนาวกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะ อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติกระเพาะอักเสบหรือกรดไหลย้อน น้ำมะนาวไม่ได้ช่วยรักษาโรคกระเพาะ แต่กลับอาจทำให้อาการแย่ลง

กร่อนเคลือบฟันและทำให้ฟันเสียว
กรดในน้ำมะนาวมีความเข้มข้นสูง อาจกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้ฟันเสียวและไวต่อความรู้สึก หากดื่มโดยไม่เจือจางหรือไม่บ้วนปากหลังดื่ม จะเพิ่มความเสี่ยงต่อฟันผุและฟันสึก

ปัญหาระบบย่อยและเสียสมดุลแร่ธาตุ
การบริโภคน้ำมะนาวมากเกินไปอาจทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้ หรือท้องเสีย เนื่องจากกรดไปกระตุ้นลำไส้ และหากดื่มร่วมกับเกลือตามสูตรที่แชร์กันในโลกออนไลน์ อาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลแร่ธาตุ ส่งผลต่อความดันโลหิตและการทำงานของไต

เสี่ยงปวดศีรษะและกระทบระบบประสาท
มะนาวมีกรดอะมิโนไทรามีนในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งหากร่างกายได้รับมากเกินไปอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัวและกระตุ้นอาการปวดศีรษะ โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นไมเกรน

รศ.นพ.เหงียน จ่อง ฮึง สถาบันโภชนาการแห่งชาติเวียดนาม ย้ำว่า ร่างกายของเรามีระบบขับสารพิษตามธรรมชาติอยู่แล้ว ผ่านทางตับ ไต และระบบย่อยอาหาร การดื่มน้ำมะนาวไม่สามารถทดแทนการทำงานของอวัยวะเหล่านี้ และไม่ใช่วิธีรักษาโรคเรื้อรังอย่างมะเร็ง ข้ออักเสบ หรือเบาหวานได้

ยิ่งไปกว่านั้น การใช้มะนาวเพื่อลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนก็ไม่ได้ผลในระยะยาว บางคนอาจน้ำหนักลดเพราะร่างกายสูญเสียน้ำชั่วคราว แต่ไม่ใช่การลดน้ำหนักที่ปลอดภัยหรือยั่งยืน

คำแนะนำในการดื่มน้ำมะนาวอย่างปลอดภัย

แทนที่จะหลงเชื่อตามกระแสที่ขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากมะนาวได้อย่างปลอดภัย ด้วยวิธีต่อไปนี้:

• เจือจางก่อนดื่ม: ใช้น้ำมะนาวคั้น 1–2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 250–500 มิลลิลิตร อาจเติมน้ำผึ้งหรือขิงเพื่อลดความเปรี้ยว
• หลีกเลี่ยงการดื่มตอนท้องว่าง: ควรดื่มหลังมื้ออาหาร เพื่อลดการระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะ
• ป้องกันการสึกของเคลือบฟัน: ใช้หลอดดูดเมื่อดื่ม และบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลังดื่มทุกครั้ง
• จำกัดปริมาณ: ดื่มเพียงวันละ 1–2 แก้วแบบเจือจาง หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะนาวคั้นสดเข้มข้น
• ฟังเสียงของร่างกาย: หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง ฟันเสียว ท้องเสีย หรือปวดหัว ควรหยุดดื่มและปรึกษาแพทย์

กระแสดื่มน้ำมะนาวคั้นสดตอนท้องว่าง เป็นตัวอย่างของข้อมูลสุขภาพที่ถูกแชร์ต่อกันโดยไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แม้มะนาวจะมีประโยชน์เมื่อใช้ในปริมาณเหมาะสม แต่การใช้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

ดังนั้นแทนที่จะวิ่งตามเทรนด์ ควรดูแลสุขภาพด้วยวิธีที่ยั่งยืน เช่น รับประทานอาหารให้ครบหมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และใส่ใจสัญญาณจากร่างกายของตนเอง จึงจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพระยะยาว