(1).jpg)
เคล็ดลับอายุยืน ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ วัย 101 ปี เผย 7 กฎเหล็กที่ยึดถือมาตลอด
ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ วัย 101 ปี เผย 7 กฎเหล็ก ที่ยึดถือมาตลอดชีวิต เพื่อให้มีอายุยืนและสุขภาพดี
หากกำลังมองหาเคล็ดลับของการมีอายุยืนและสุขภาพดี ดร.จอห์น ชาร์เฟนเบิร์ก ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ วัย 101 ปี รายนี้ ยังคงแข็งแรงกระฉับกระเฉงเหมือนคนหนุ่ม
คุณปู่จากแคลิฟอร์เนียผู้นี้ยังมีสติสมบูรณ์ ขับรถเองได้ และเดินทางท่องโลกได้อย่างสบาย ซึ่งเขาเชื่อว่า ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการใช้ชีวิตอย่างมีวินัยและใส่ใจสุขภาพมาตลอด
คุณหมอผู้นี้ จบปริญญาโทด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมีประสบการณ์สอนโภชนาการกว่า 62 ปี ที่มหาวิทยาลัยโลมาลินดา ไม่ได้เชื่อว่าพันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขามีอายุยืนยาว
เขาอธิบายว่า แม่ของเขาเสียชีวิตด้วยโรคอัลไซเมอร์ในวัย 60 กว่า พ่อจากไปด้วยโรคหัวใจเมื่ออายุ 76 ปี และเขายังมีอายุยืนกว่าพี่น้องทุกคนอีกด้วย ดร.ชาร์เฟนเบิร์ก ยกความดีความชอบทั้งหมดให้กับ "7 กฎเหล็ก" ที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต จนสามารถมีอายุยืนยาวถึง 101 ปีในวันนี้
7 กฎเหล็กเพื่ออายุยืนและสุขภาพดี
1. งดสูบบุหรี่
ดร.ชาร์เฟนเบิร์ก เผยว่า ตลอด 101 ปีที่ผ่านมา เขา “ไม่เคยสูบบุหรี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว” และหากใครอยากมีอายุยืนแบบเขา ก็ไม่ควรสูบเช่นกัน
เพราะการสูบบุหรี่เป็นนิสัยที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง อีกทั้งยังทำให้สมรรถภาพปอดลดลงอย่างมากอีกด้วย
2. งดแอลกอฮอล์
ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการรายนี้ให้สัมภาษณ์กับช่อง YouTube "Viva Longevity" ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เชื่อทฤษฎีที่ว่า “ไวน์วันละแก้วดีต่อสุขภาพ”
เขาเชื่อว่า ไม่ว่าจะดื่มน้อยแค่ไหน แอลกอฮอล์ก็ยังเป็นภัยต่อสุขภาพอยู่ดี
3. โบกมือลาความหวาน
แม้อาจจะทำให้คนรักของหวานรู้สึกสะเทือนใจ แต่นี่คือหนึ่งในกฎเหล็กของ ดร.ชาร์เฟนเบิร์ก เขาหลีกเลี่ยงน้ำตาลในอาหารให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และมักจะปรับสูตรอาหารเพื่อเลี่ยงการเติมน้ำตาล
เขาอธิบายว่า การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างน้ำหนักตัวเพิ่มและฟันผุอีกด้วย
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แม้ว่า ดร.ชาร์เฟนเบิร์ก จะเชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แต่เขากลับเชื่อว่า “การออกกำลังกายสำคัญยิ่งกว่าอาหารที่เรากินเข้าไปเสียอีก”
เขามองว่าการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงวัยกลางคนระหว่างอายุ 40 ถึง 70 ปี จะช่วยส่งเสริมสุขภาพได้อย่างน่าทึ่ง
5. ควบคุมน้ำหนักให้สมดุล
ดร.ชาร์เฟนเบิร์ก ไม่ได้แนะนำให้หมกมุ่นกับตัวเลขบนตาชั่ง แต่เขาเชื่อว่า การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์คงที่ตลอดหลายปีเป็นสิ่งสำคัญ
เขาแนะนำให้ลองทำ “การอดอาหารเป็นช่วงเวลา (Intermittent Fasting หรือ IF)” หลีกเลี่ยงการกินจุกจิก และเลือกกินอาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านการแปรรูป พร้อมควบคุมปริมาณให้พอเหมาะพอดี
6. งดเนื้อสัตว์ให้ได้
แม้บางคนจะยังไม่พร้อมเปลี่ยนมากินพืชเป็นหลัก แต่คุณหมอบอกว่า การกินแบบพืชเป็นหลักคือทางเลือกที่ดีที่สุดหากอยากมีอายุยืน
เขางดกินเนื้อมาตั้งแต่อายุ 20 ปี และหันมากินผลไม้ ผัก และธัญพืชแทน เช่น มะม่วง ลูกพลับ แมคคาเดเมีย ถั่ว เมล็ดพืช และมันฝรั่ง โดยยังคงดื่มนมและกินไข่ตามปกติ
7. ลดไขมันอิ่มตัว
แม้ไขมันอิ่มตัวจะอยู่ในอาหารจานโปรดหลายอย่างของเรา แต่คุณหมอชาร์เฟนเบิร์กแนะนำให้หลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
เพราะการลดไขมันอิ่มตัว จะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูงและคอเลสเตอรอลสูงได้อย่างมีนัยสำคัญ