น่าประหลาดใจ! วิจัยฮาร์วาร์ดเผย คนกินมากหรือกินน้อย "ใคร EQ สูงกว่า?" ต่างกันถึง 90%
การศึกษาที่น่าประหลาดใจ คนที่กินเก่งมี "EQ" สูงกว่าคนที่กินน้อยถึง 90%
ผลการศึกษาล่าสุดจากนักจิตวิทยาชี้ว่า ผู้ที่มีนิสัยกินเก่ง ไม่เพียงแค่มีความสุขจากการกิน แต่ยังมีแนวโน้มว่าจะมี ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) สูงกว่าผู้ที่กินน้อยถึง 90% เลยทีเดียว
EQ คืออะไร? สำคัญกว่าที่คิด?
ความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ คือความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และจัดการกับอารมณ์ของตนเอง รวมถึงการเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น พร้อมกับใช้ข้อมูลทางอารมณ์เหล่านี้เพื่อกำกับความคิดและการกระทำให้เหมาะสม
Daniel Goleman ผู้เขียนหนังสือชื่อดังเรื่อง Emotional Intelligence เคยกล่าวไว้ว่า คนที่มี IQ สูงและ EQ สูงมักประสบความสำเร็จ ขณะที่คนที่มี IQ สูงแต่ EQ ต่ำ อาจรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ยอมรับ ส่วนคนที่มี IQ ต่ำและ EQ ต่ำก็มักจะไปไม่ถึงไหน
นั่นแสดงให้เห็นว่า ในบางกรณี EQ มีความสำคัญมากกว่า IQ โดยเฉพาะในการใช้ชีวิตประจำวัน และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ผลการศึกษาจากนักจิตวิทยาในสหรัฐฯ ชี้ว่า คนที่กินเยอะมีแนวโน้มว่ามี EQ สูงกว่าคนที่กินน้อยถึง 90% แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของตัวเลขดังกล่าว แต่แนวคิดนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงจิตวิทยา
กินเยอะ ช่วยเพิ่ม EQ จริงหรือ?
ผลวิจัยจากศูนย์วิจัยจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า คนที่กินเยอะมักมีความฉลาดทางอารมณ์สูงกว่า ซึ่งแม้รายละเอียดเชิงลึกของงานวิจัยยังไม่เปิดเผยทั้งหมด แต่แนวคิดนี้มีเหตุผลรองรับจากหลายแง่มุม
คนกินเก่งมักเข้าสังคมเก่ง
ตามแนวคิด “ทฤษฎีการซึมซับทางสังคม” ผู้ที่กินเก่งมักมีทักษะทางสังคมสูง เพราะชอบเข้าสังคมผ่านการกิน เช่น การทานร่วมโต๊ะ พูดคุย แลกเปลี่ยนอาหาร สิ่งเหล่านี้ส่งเสริมให้พวกเขาเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ทั้งทางสีหน้า ท่าทาง และอารมณ์
นอกจากนี้ การแบ่งปันอาหารยังทำให้เกิดการเอาใจใส่ และตอบสนองความต้องการของผู้อื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนที่มี EQ สูง
การกินกับพฤติกรรมการสื่อสาร
มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า คนมักจะเปิดใจรับฟังและยอมรับความเห็นของผู้อื่นในขณะรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบของ การสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีประสิทธิภาพ
ผู้ที่กินเยอะจึงมีโอกาสฝึกฝนการสื่อสารอารมณ์ เช่น การปฏิเสธอย่างสุภาพ หรือการปรับอารมณ์คนในวงสนทนา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การกินสะท้อนบุคลิก
คนที่กินเร็ว มักเป็นคนตัดสินใจไว กล้าทำ แต่บางครั้งอาจหุนหันพลันแล่น ขณะที่คนกินช้า มักสุขุม รอบคอบ และมีสติในการคิด แต่ก็อาจเก็บตัวมากเกินไป
คนที่กินมากอาจใช้การกินเป็นเครื่องมือคลายเครียด และอาจมีปัญหาเรื่องการควบคุมตนเอง ขณะที่คนที่กินน้อยหรือเลือกกินมาก อาจมีแนวโน้มเป็นคนที่ชอบควบคุมสิ่งต่างๆ และขาดความยืดหยุ่นในสังคม
ร่างกาย-จิตใจ เชื่อมโยงกัน
ปริมาณอาหารที่บริโภคคือสภาวะทางร่างกาย ขณะที่ EQ คือภาวะทางจิตใจ ทั้งสองมีความเชื่อมโยงกัน เช่น คนที่มีเมตาบอลิซึมดี หรือมีพลังงานสูง มักจะมีบุคลิกที่เปิดเผยและเป็นมิตร
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ยีนหรือพันธุกรรมที่ทำให้คนกินเก่ง มีผลต่อ EQ โดยตรง
- ไม่ใช่แค่คาดเดา แต่เป็นงานวิจัยของ "ฮาร์วาร์ด" เด็กที่เกิดใน 3 เดือนนี้ มักมีอนาคตสดใส!
- ทำไมควรมอง "ตาซ้าย" ของคู่สนทนา นักประสาทวิทยาเฉลย เทคนิคดีๆ ที่คนไม่ค่อยรู้!
ท้ายที่สุด แม้ว่าการกินเยอะจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับ EQ และการเข้าสังคม แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยตัดสินความฉลาดทางอารมณ์โดยสมบูรณ์
EQ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีหลายมิติ ส่วนการกินก็เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่อาจสะท้อนบุคลิกบางอย่างเท่านั้น
สิ่งสำคัญคือ การรู้จักเข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น ฝึกฝนทักษะทางสังคม และดูแลสุขภาพร่างกายควบคู่กันไป
