เนื้อหาในหมวด ข่าว

เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้เข้า \

เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้เข้า "ฮาร์วาร์ด" ไม่ติวเพิ่ม ไม่บังคับ แค่ทำ 3 ข้อนี้ เรื่องที่พ่อแม่มักมองข้าม

ไม่ต้องมีตารางเรียนเสริมแน่น ๆ ไม่ต้องกดดันเรื่องคะแนน แต่เด็กชายคนหนึ่งก็สามารถเข้า "ฮาร์วาร์ด" ได้อย่างง่ายดาย เคล็ดลับของแม่เขาถูกย่อไว้เพียง 3 หลักการง่าย ๆ ที่พ่อแม่หลายคนมักมองข้าม

เมื่อได้รับจดหมายตอบรับเข้า "ฮาร์วาร์ด" ของลูกชาย ด้วยผลการเรียนยอดเยี่ยมและประวัติการเรียนที่น่าประทับใจ จูลี ไลท์คอตต์-ไฮมส์ อดีตคณบดีฝ่ายรับนักศึกษาใหม่ และที่ปรึกษาด้านการศึกษาสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด  สหรัฐอเมริกา ไม่รู้สึกประหลาดใจ สิ่งที่ทำให้เธอภูมิใจไม่ใช่ชื่อเสียงของสถาบัน แต่คือวิธีที่ลูกชายเติบโตขึ้นมาอย่างมั่นใจ พึ่งพาตนเองได้ และมีความหลงใหลในการเรียนรู้

แตกต่างจากแบบแผน “พ่อหมาป่า แม่เสือ” ที่มักพบในหลายครอบครัวเอเชีย จูลีไม่เคยบังคับให้ลูกต้องเป็นหัวแถว ต้องเรียนดนตรี เรียนคณิตศาสตร์ขั้นสูง หรือเข้าร่วมการแข่งขันวิชาการ เธอเลือกที่จะเป็นเพื่อนร่วมทาง คอยสนับสนุนให้ลูกได้ค้นพบด้วยตนเองและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง

ในการสัมภาษณ์หลายครั้ง เธอเล่าว่าเพียงแค่ยืนหยัดฝึกฝน 3 นิสัยพื้นฐานตั้งแต่เด็ก และนี่เองที่เป็นกุญแจเปิดประตูสู่ฮาร์วาร์ด

1. ให้ลูกบริหารเวลาตัวเองตั้งแต่ระดับอนุบาล

ตั้งแต่ลูกชายอายุเพียง 5 ขวบ จูลีปล่อยให้เขา จัดตารางเวลาเอง สำหรับสัปดาห์นั้น ๆ แล้วแปะไว้ในห้องส่วนตัว ไม่ใช่พ่อแม่กำหนดเวลาเรียนหรือเวลาเล่นให้ แต่เด็กเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมดว่า จะเรียนเมื่อไหร่ อาบน้ำเมื่อไหร่ และเล่นเมื่อไหร่

ในช่วงแรก ตารางของเขาเต็มไปด้วยช่อง “play time” (เวลาเล่น) แทบทุกช่อง บางสัปดาห์เกือบทั้งหมดหมุนรอบ LEGO และเกมวิดีโอ “ฉันมองแล้วยังตกใจ แต่ก็อดทนให้เขาปรับตัวเอง” จูลีเล่า

ผลลัพธ์คือ เมื่อลูกขึ้นชั้น ป.1 เขาสามารถ บาลานซ์ระหว่างการเรียนและการเล่น ได้ดี จากงานวิจัยของสมาคมจิตวิทยาอเมริกา (APA) ปี 2018 พบว่าเด็กที่ถูกส่งเสริมให้ บริหารเวลาตัวเองตั้งแต่เล็ก จะมีความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมสูงกว่า ลดการผัดวันประกันพรุ่ง และมีผลการเรียนดีกว่าในวัยรุ่น

นิสัยนี้เองที่ทำให้เด็กชาย ไม่เคยส่งงานสาย และยังคงมีเวลาเล่นกับเพื่อน ๆ อย่างเต็มที่

2. ให้ลูกได้ตามรอยสิ่งที่รัก

แทนที่จะบังคับให้ลูกเรียนเปียโนหรือเข้าเรียนติวเข้ม จูลีเชื่อว่า ความหลงใหลคือครูที่ดีที่สุด

ตอนลูกอายุ 6 ขวบ เขาหลงใหลการวาดภาพ จูลีจึงไม่เพียงแค่สมัครเรียนศิลปะให้ลูก แต่ยังปล่อยให้เขา วาดจนมือเมื่อย โดยไม่เร่งรัด บางครั้งความตั้งใจของลูกก็สั่นคลอน “วาด 3 วัน หยุด 2 วัน” เธอก็ไม่บังคับ แต่เลือกดูการ์ตูนสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับศิลปิน เล่าเรื่องราวของศิลปินชื่อดัง และค่อย ๆ เตือนเรื่องความมุ่งมั่น

หลายปีต่อมา เมื่อยื่นสมัคร ฮาร์วาร์ด ลูกชายเลือกเรียนสาขา ประวัติศาสตร์ศิลปะ และผลงานศิลปะพร้อมบทความเกี่ยวกับศิลปะนั้นก็ช่วยสร้างความประทับใจให้คณะกรรมการอย่างมาก

งานวิจัยปี 2021 ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ชี้ว่า นักเรียนที่มีโอกาส ตามรอยความสนใจส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง มักมีประวัติการเรียนเด่นกว่า เพราะความหลงใหลสะท้อนถึง ความมุ่งมั่นและความสามารถในการกำหนดทิศทางตนเอง 2 ปัจจัยที่ฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัย Ivy League ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

3. สอนลูกให้พึ่งพาตัวเองตั้งแต่อายุ 2 ขวบ

จูลีเชื่อว่า “พ่อแม่ไม่สามารถตามลูกไปได้ตลอดชีวิต แต่ความเป็นอิสระนั้นทำได้”

ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ลูกชายถูกสอนให้ แต่งตัวเอง กินข้าวเอง และเข้านอนเอง เมื่อเข้าสู่ช่วงมัธยมต้น เขาก็สามารถตัดสินใจได้เองว่าจะเรียนเสริมหรือไม่ จะทบทวนบทเรียนล่วงหน้าหรือขอเพื่อนช่วยเรียนพิเศษ จูลีไม่เคยยืนรอหน้าประตูห้องเพื่อตรวจการเรียนของลูก และไม่เคยตั้งเป้าหมายแบบ “ต้องได้ A+” หรือ “ต้องอยู่ใน 5 อันดับแรกของชั้น”

“คะแนนเป็นเรื่องของลูก ไม่ใช่ของพ่อแม่ อนาคตก็เป็นของลูก ลูกจึงต้องรับผิดชอบเอง” เธอกล่าว

จากการสำรวจของ Harvard Graduate School of Education ปี 2020 พบว่า นักเรียนที่เก่งที่สุดไม่ได้เป็นกลุ่มที่เรียนเสริมมากที่สุด แต่คือกลุ่มที่ได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่ ตั้งแต่ให้สิทธิ์ตัดสินใจและรับผิดชอบต่อผลลัพธ์การเรียนของตนเองตั้งแต่เนิ่น ๆ

ผลลัพธ์: อิสระแต่มีกรอบ

ลูกชายของจูลีสอบเข้า ฮาร์วาร์ด ในปี 2014 เรียนสาขาศิลปะ พร้อมกับเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรหลายอย่าง เขาไม่ใช่ “เครื่องจักรคะแนน” แต่เป็นเยาวชนที่ รักศิลปะ มั่นใจ และพึ่งพาตนเองได้

บทเรียนจากแม่ผู้สร้างนักเรียนฮาร์วาร์ดนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้พ่อแม่ชาวอเมริกันหลายคน: แทนที่จะควบคุมลูกอย่างเข้มงวด ให้ลูกมี อิสระในกรอบที่เหมาะสม บริหารเวลา ติดตามความสนใจของตนเอง และฝึกความเป็นอิสระตั้งแต่เด็ก

“สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ฮาร์วาร์ด แต่คือการที่ลูกชายรู้จัก ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่” จูลีกล่าว