ชายวัย 42 ปีเสี่ยงไตวาย เพราะกินผักชนิดนี้ทุกวัน ใครบ้างควรหลีกเลี่ยงการกิน?
แม้ว่า ผักโขม (Spinach) หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า "ผักโขม/คะน้าฝรั่ง" จะขึ้นชื่อว่าเป็นผักที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลาย แต่หากรับประทานมากเกินไปก็อาจกลายเป็นภัยเงียบต่อไตได้ เช่นกรณีของชายชาวจีนรายนี้
กินผักเพื่อสุขภาพ สุดท้ายเสี่ยงไตวาย
นาย เฉิน อายุ 42 ปี จากประเทศจีน มีสุขภาพโดยรวมแข็งแรง เพียงแค่ป่วยเป็นโรคเกาต์เล็กน้อยแต่ไม่ได้รับการรักษา ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ เขาเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนบ่อย และถ่ายเหลววันละ 4-5 ครั้ง เมื่อตัดสินใจไปพบแพทย์ ผลตรวจทำให้ทั้งครอบครัวตกตะลึง
-
ค่า ครีเอตินีนในเลือดสูงถึง 430 μmol/L (ปกติจะต่ำกว่านี้หลายเท่า)
-
ภาพ CT ช่องท้องพบความผิดปกติในเนื้อไต
การตรวจละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงการเจาะชิ้นเนื้อไต พบว่ามี ผลึกออกซาเลตจำนวนมากสะสมอยู่ พร้อมการอักเสบรุนแรง แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเป็น โรคไตจากการสะสมออกซาเลต (Oxalate Nephropathy)
สาเหตุเกิดจากผักโขม
หลังสอบถามประวัติการกินอาหาร แพทย์พบว่าในช่วงหลายวันก่อนหน้านั้น นาย เฉิน รับประทานผักโขมติดต่อกันจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังมีอาการท้องเสีย ทำให้ร่างกายดูดซึมและขับถ่ายออกซาเลตผิดปกติ ส่งผลให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน
โชคดีที่ได้รับการรักษาทันท่วงที ทั้งการให้น้ำเกลือ ขับปัสสาวะ เสริมแคลเซียม และฟื้นฟูการทำงานของไต ทำให้สุขภาพดีขึ้น ค่าเลือดกลับมาใกล้ปกติ
ทำไมผักโขมถึงทำร้ายไตได้?
ผักโขมมีปริมาณ กรดออกซาลิกสูง ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากมีปริมาณมากเกินไป จะรวมตัวกับแคลเซียมเกิดเป็นผลึกออกซาเลต แหลมคมเหมือนเศษแก้ว สามารถทำให้ท่อไตเกิดการอุดตันและบาดเจ็บ จนนำไปสู่การเกิดนิ่วและไตเสื่อมเรื้อรังได้
โรคนี้แบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ
-
แบบปฐมภูมิ (พบได้น้อยมาก): เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้ร่างกายสร้างออกซาเลตมากผิดปกติ
-
แบบทุติยภูมิ (พบบ่อยกว่า): มักเกิดจากการกินอาหารที่มีออกซาเลตสูง เช่น ผักโขม บีทรูท ช็อกโกแลต หรือชาเข้ม รวมถึงผู้ที่มีโรคลำไส้ โรคไต หรือกินวิตามินซีเกินขนาด
ใครควรหลีกเลี่ยงการกินผักโขมมากเกินไป?
-
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
-
ผู้ที่เคยเป็นนิ่วในไต
-
ผู้ป่วยโรคเกาต์
-
ผู้ที่ระบบย่อยอาหารไม่แข็งแรง หรือใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
คำแนะนำจากแพทย์
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: 2-2.5 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยเจือจางปัสสาวะและลดการตกผลึก
-
ปรุงให้ถูกวิธี: ผักที่มีออกซาเลตสูงควรลวกหรือต้มก่อน เพื่อลดปริมาณกรดออกซาลิก
-
กินอาหารสมดุล: ควรได้รับแคลเซียมจากอาหาร เช่น นม ชีส โยเกิร์ต เพราะแคลเซียมจะช่วยจับกับออกซาเลตและขับออกจากร่างกาย
-
อย่าเสริมวิตามินซีเกินความจำเป็น: เพราะอาจทำให้ระดับออกซาเลตในร่างกายสูงขึ้น
บทสรุป
ผักโขมแม้จะเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากกินมากเกินไปโดยไม่ระวัง อาจกลายเป็นดาบสองคมต่อไต กรณีของนาย เฉิน เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้แต่ผักธรรมดาที่เราคุ้นเคย หากกินในปริมาณมากและไม่ปรุงให้ถูกวิธี ก็อาจสร้างความเสียหายต่อร่างกายได้