ลองสังเกตดู 5 พฤติกรรมการกิน หากมี 4 ใน 5 ข้อนี้ ก็มีโอกาสอายุยืนถึง 90 ปีไม่ยาก
ผู้ที่มีอายุยืนมักมี 5 พฤติกรรมเด่นในการรับประทานอาหาร หากมีครบ 4 ข้อจาก 5 ข้อนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะมีชีวิตยืนยาวถึง 90 ปีไม่ยาก
อายุขัยของคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว งานวิจัยพบว่า ยีนมีส่วนเพียงราว 25% ในการกำหนดอายุขัย ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับวิถีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการกินประจำวัน จริง ๆ แล้วนิสัยเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารก็สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อสุขภาพและอายุยืน
ผู้เชี่ยวชาญพบว่า คนที่มีสุขภาพดีและอายุยืนมักมีนิสัยการกินบางอย่างที่เหมือนกัน 5 ข้อหลักต่อไปนี้ ช่วยให้พวกเขารักษาสุขภาพและยืดอายุ
1. เคี้ยวช้า ๆ และละเอียด
การกินช้า ๆ และเคี้ยวให้ละเอียดเป็นนิสัยของคนที่มีอายุยืน ซึ่งเป็นนิสัยที่ดีต่อสุขภาพมาก เมื่อเคี้ยวละเอียด อาหารจะถูกบดและผสมกับน้ำลายที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร ทำให้ระบบย่อยทำงานเบาลง
ตรงกันข้าม การกินรีบหรือกลืนทั้งคำจะทำให้กระเพาะอาหารและม้ามทำงานหนักเกินไปในระยะยาว อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือกระทบต่อการสร้างพลังงานเลือด จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเคี้ยวอาหารแต่ละคำมากกว่า 20 ครั้งเพื่อช่วยการย่อยอาหารให้ดียิ่งขึ้น

2. กินพอประมาณ 70% ของความอิ่ม
“กินแค่พอประมาณ” ถือเป็นเคล็ดลับสุขภาพสำคัญของผู้มีอายุยืน นี่คือระดับความอิ่มที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาสุขภาพ นิสัยนี้ดีต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนาน และยังช่วยร่างกายได้รับสารอาหารและพลังงานเพียงพอ
กระเพาะอาหารเหมือนถุงยืดหยุ่น หากถูกยัดแน่นบ่อย ๆ จะทำให้การย่อยอาหารเสื่อมลง การกินมากเกินไปไม่เพียงแต่เพิ่มภาระต่อกระเพาะและม้ามเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อความอ้วน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูงด้วย
3. กินหลากหลายและสมดุลสารอาหาร
แพทย์แผนโบราณเน้นว่า “รสทั้ง 5 เลี้ยงอวัยวะทั้ง 5” คือ รสเปรี้ยวบำรุงตับ รสขมบำรุงหัวใจ รสหวานบำรุงม้าม รสเผ็ดบำรุงปอด และรสเค็มบำรุงไต ดังนั้นผู้มีอายุยืนมักรับประทานอาหารหลากหลาย ผสมผสานธัญพืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ปลา ถั่ว และนม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน

4. เน้นอาหารรสอ่อน เลี่ยงมัน เค็ม และหวาน
ผู้มีอายุยืนมักรับประทานอาหารรสอ่อนเพื่อสุขภาพที่ดี งานวิจัยพบว่า การกินอาหารมัน เค็ม หรือหวานมากในระยะยาว เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ แพทย์แผนโบราณยังเตือนว่า อาหารมันหรือหวานเกินไปทำลายม้าม อาหารเค็มทำร้ายไต และน้ำตาลมากเกินไปก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอ
ผู้มีอายุยืนมักเลือกวิธีปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น นึ่ง ต้ม หรือเคี่ยว แทนการทอด เพื่อให้มื้ออาหารทั้งอร่อยและเบา สุขภาพดี
5. กินตรงเวลาและครบมื้อ
อีกหนึ่งนิสัยที่ผู้มีอายุยืนมักมี คือ กินอาหารตรงเวลาและครบทุกมื้อ นิสัยนี้แม้เรียบง่าย แต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงทุกวัน ตรงกันข้าม การกินไม่เป็นเวลาอาจทำลายนาฬิกาชีวภาพและรบกวนระบบย่อยอาหาร แพทย์แผนโบราณเชื่อว่า หากม้ามและกระเพาะไม่ได้รับการบำรุงตามจังหวะ ร่างกายจะอ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ดังนั้น ควรรักษามื้ออาหารให้ครบสามมื้อ ไม่ละเลยมื้อเช้า และหลีกเลี่ยงกินมากเกินไปในตอนเย็น