ไปตลาดเจอ "ผัก 3 ชนิดนี้" อย่าลืมซื้อทันที เพราะปลอดสารพิษ โภชนาการ "เทียบโสม"

ถ้าไปตลาดแล้วเจอ “ผัก 3 ชนิดนี้” อย่าลืมซื้อทันที พวกมันปลอดสารพิษ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง “เทียบเท่าโสม"

 สภาพอากาศในช่วงนี้ แสงแดดฤดูร้อนค่อยๆ เบาบางลง ลมหนาวฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านทุกซอกทุกมุมถนน ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่ร่างกายมีแนวโน้มที่จะรู้สึกไม่สบาย เช่น คอแห้ง กระเพาะอาหารและลำไส้ไวต่อความรู้สึกมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่าในช่วงนี้ควรรับประทานอาหารเย็นให้มาก บำรุงปอด และเสริมสร้างม้าม เพื่อให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริบทที่ผู้คนเริ่มให้ความใส่ใจกับอาหารสีเขียวที่ปลอดภัยมากขึ้น ผักที่ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงจึงเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น และด้านล่างนี้คือผัก 3 ชนิดที่ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง แต่ "มีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่าโสม" รีบซื้อทันทีที่เห็นในตลาด เพราะทั้งสะอาดและดีต่อสุขภาพ

1. มันเทศ

เผือกเป็นที่รู้จักกันมายาวนานว่าเป็น "อาหารศักดิ์สิทธิ์" ในศาสตร์การแพทย์แผนตะวันออก เผือกเป็นยาและอาหารอันล้ำค่าที่ช่วยบำรุงม้าม บำรุงพลังชี่ บำรุงไต และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปอด เผือกอุดมไปด้วยเอนไซม์ย่อยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งช่วยย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด ลดอาการไอ และยังถือว่าช่วยยืดอายุได้อีกด้วย

ที่สำคัญ มันเทศเติบโตตามธรรมชาติ แทบไม่มีสารกำจัดศัตรูพืช จึงปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างมาก เพียงต้ม นึ่ง หรือตุ๋นกับไก่หรือหมู ก็ได้เมนูอร่อยและมีประโยชน์

2. กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวเปรียบเสมือน “ดาวเด่น” แห่งฤดูใบไม้ร่วง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทองคำสีเขียวแห่งพืช” กระเจี๊ยบเขียวมีเนื้อกรอบ หวาน นุ่ม อุดมไปด้วยวิตามินซีและใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน บำรุงผิวพรรณให้สวยงาม และส่งเสริมการขับถ่ายของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก

ความพิเศษคือกระเจี๊ยบเขียวจะหลั่งเมือกตามธรรมชาติที่ทำให้แมลง "สัมผัส" ได้ยาก จึงแทบไม่ต้องฉีดพ่นยาฆ่าแมลง วิธีปรุงที่ง่ายที่สุดคือการต้มแล้วจิ้มน้ำปลากับกระเทียม หรือผัดกับไข่เพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติที่ดึงดูดใจ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานกระเจี๊ยบเขียวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเพียงพอ

3. แห้ว

แห้ว ผลไม้ประจำถิ่นของลุ่มแม่น้ำ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลสาบ” ด้วยเปลือกที่แข็งตามธรรมชาติ แห้วจึงไม่จำเป็นต้องฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ตามตำราแพทย์แผนโบราณ แห้วมีฤทธิ์บำรุงม้ามและช่วยให้จิตใจสงบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รู้สึกเหนื่อยล้าง่ายในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล

แห้วสามารถรับประทานดิบๆ ได้ - ปอกเปลือกออกเพื่อเผยให้เห็นเนื้อสีขาวบริสุทธิ์ หวาน และกรุบกรอบ หากต้องการปรุงให้ละเอียดขึ้น สามารถตุ๋นแห้วกับหมูสามชั้นเพื่อให้ได้เมนูที่เข้มข้น เนื้อจะมันน้อยลง และแห้วจะมีไขมันและน่ารับประทานมากขึ้น

• เอาให้ชัด! สตรอเบอร์รี่ “ยาวิเศษ” กินดีต่อสมอง-หัวใจ ของคนวัย 65+ จริงหรือ?
• เลี่ยงได้เลี่ยง 3 มื้อเย็น “ทำลายตับ” ไม่น้อยหน้าแอลกอฮอล์ แต่กลับถูกใจใครหลายคน!

ช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนสู่ฤดูหนาว คือโอกาสที่เราจะได้ “เติมพลัง” ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ผักทั้งสามชนิดที่กล่าวมาข้างต้นไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการและสะอาดเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและปลอดภัยอีกด้วย แม้ว่าราคาจะสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังคงควรซื้อ เพื่อเปลี่ยนรสชาติของมื้ออาหารและเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว