ถึงเวลาช่วยตับ! "งดดื่ม 4 เครื่องดื่ม" นี้ตอนกลางคืน แม้จะติดใจแค่ไหนก็ตาม
ถึงเวลารักษาตับ ด้วยการ "งดดื่ม" 4 เครื่องดื่มนี้ในตอนกลางคืน แม้จะชอบแค่ไหนก็ตาม
หลังจากวันทำงานอันยาวนาน หลายคนมักเลือกดื่มเครื่องดื่ม 4 ประเภทนี้ในช่วงเวลากลางคืน โดยไม่รู้ว่าอาจทำลายตับโดยไม่ตั้งใจ
ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญในการกำจัดสารพิษและแปลงสารอาหารต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งทำงานไม่หยุดพักตลอดเวลา แต่เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ ตับก็ต้องการเวลาพักผ่อนและฟื้นฟูในตอนกลางคืน เมื่อร่างกายเข้าสู่โหมดการพักผ่อนตามธรรมชาติ
ดังนั้นการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่เหมาะสมในช่วงเวลากลางคืนจึงยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพตับโดยตรง เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักในช่วงเวลาที่ควรพักผ่อน ซึ่งอาจทำให้กระบวนการฟื้นฟูตับถูกขัดจังหวะ ส่งผลให้ไขมันสะสมในตับ เกิดการอักเสบ และเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ
เพื่อปกป้องตับของคุณ ควรงดดื่ม 4 เครื่องดื่มนี้ในช่วงเย็น:

1. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์และไวน์ เป็นสาเหตุหลักที่ทำลายตับทั่วโลก เมื่อดื่มในตอนกลางคืน ตับจะต้องทำงานอย่างหนักในการกำจัดสารพิษจากแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดการสะสมของสารพิษชื่อว่าแอซิตัลดีไฮด์ ซึ่งทำให้เซลล์ตับตาย และส่งผลให้ตับไม่สามารถฟื้นฟูได้ในเวลาที่ควร

2. น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีฟรุกโตสสูง
น้ำอัดลมและน้ำผลไม้กระป๋องที่มีฟรุกโตสสูงทำให้ตับต้องทำงานหนักในการแปลงน้ำตาลส่วนเกินเป็นไขมัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคตับไขมัน (NAFLD) และทำให้การฟื้นฟูของตับช้าลง
3. มิลค์เชคและเครื่องดื่มที่มีครีมหรือสลัดครีม
เครื่องดื่มประเภทมิลค์เชคและสลัดครีมที่มีไขมันและน้ำตาลสูง หากดื่มในตอนกลางคืนจะเพิ่มภาระให้กับตับในการจัดการไขมันและแคลอรี่ที่มากเกินไป ซึ่งทำให้การทำงานของตับช้าลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคตับเรื้อรัง

4. กาแฟเข้มข้นและเครื่องดื่มพลังงานที่มีคาเฟอีน
ถึงแม้คาเฟอีนจะไม่ทำลายตับโดยตรง แต่การดื่มกาแฟเข้มข้นหรือเครื่องดื่มพลังงานในตอนกลางคืนจะส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียด (คอร์ติซอล) ซึ่งจะทำให้กระบวนการฟื้นฟูของตับถูกขัดจังหวะ และตับต้องทำงานตลอดทั้งคืนเพื่อขับคาเฟอีนออกจากร่างกาย ส่งผลให้ตับไม่สามารถพักผ่อนและฟื้นฟูได้
เพื่อรักษาตับและสุขภาพที่ดี ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้ในตอนกลางคืน และเลือกดื่มสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแทน